บทความ : "เด็กนอกระบบ" #4 หัวข้อ “ถ้าครอบครัวมีความรักความผูกพันกัน ถึงจุดหนึ่งเราจะคิดถึงเขา และพยายามเปลี่ยนตัวเอง”
“คิม”
เลิกเรียนหลังจบชั้น ปวช.ปีที่ 1
ออกมาใช้ชีวิตวัยรุ่นกับกลุ่มเพื่อน เที่ยวเตร่ กลับบ้านบ้าง ไม่กลับบ้าง
..และเสพยาบ้า
วันนี้ คิม
อายุ 17 ปี ได้มารู้จักและใช้เวลาใน ศูนย์สร้างโอกาสเด็กและเยาวชนแห่งขอนแก่น
ภายใต้การสนับสนุนของเทศบาลนครขอนแก่น โดยความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายจาก 25 หน่วยงาน
ในช่วง 3-4 ปี คิมเปลี่ยนไปจนแทบจะจำตัวเองไม่ได้
คิมหยุดใช้ยาเสพติด
ไม่ติดเที่ยวเหมือนเมื่อก่อน แต่หันมาใช้เวลากับการทำงาน เก็บเงิน เขาวางแผนอนาคต
อยากดูแลคนในครอบครัว
“ผมใช้ยาประมาณหนึ่งปี
แต่ไม่ได้ต้องดูดทุกวัน ไม่ได้ขาย แค่สนุกกับเพื่อน ตอนนั้นไม่ค่อยอยู่บ้าน
เที่ยวตลอด พอมาเรียน ปวช. เพื่อน ๆ เลิกเรียน ผมก็เลิกตาม ออกมากันหมด”
อะไรคือ
“ปมปัญหา” ที่ทำให้ชีวิตของเขาออกนอกลู่นอกทางจนเผชิญความเสี่ยงแบบนี้?
คิมนิ่งคิด
แล้วตอบสั้น ๆ ว่า
“ไม่มี”
“ติดเพื่อนเท่านั้น
เป็นกลุ่มเพื่อนที่เรียนด้วยกันที่โรงเรียนเทศบาล เป็นเพื่อนที่โตมาด้วยกัน
แล้วก็พากันมาเรียนอาชีวะ พอไม่เรียน ก็ตามกันออกมา มาดูดยาด้วยกัน โดยไม่มีใครชวนใคร
ไม่ได้บังคับกัน เราทำอะไรก็ทำด้วยกัน อยากรู้อยากลอง มันห้ามใจตัวเองไม่ได้
คิดแต่จะสนุกกันทุกวัน”
กลับตัว กลับใจ ..กลับบ้าน
ศูนย์สร้างโอกาสเด็กและเยาวชนแห่งขอนแก่น
ใช้แนวทางจิตตปัญญาศึกษาที่เน้นเสริมสร้างความเข้มแข็งภายในตนเอง
เพื่อฟื้นฟูชีวิตให้วัยรุ่นที่เดินออกนอกลู่นอกทางหลังหลุดจากระบบการศึกษา
ชีวิตของคิม
เปลี่ยนไป
“ผมชอบที่นี่
อยู่กับแบบครอบครัวพี่น้อง ได้พูดคุย ไปเที่ยว ใช้ชีวิตด้วยกัน ทำกิจกรรมต่าง ๆ
มีแต่ความสบายใจ ไม่มีอะไรให้เครียดเลย จริง ๆ
ก็เป็นความรู้สึกเดียวกับตอนอยู่กับกลุ่มเพื่อน ต่างกันตรงที่เพื่อนกลุ่มที่ผมเคยอยู่ด้วยกันใช้ยา
ผมยังคบเพื่อนกลุ่มนี้อยู่ เจอกันได้ไม่มีปัญหาอะไร เราควบคุมตัวเองได้
ไม่ใช้ยาอีก เห็นว่าเพื่อน ๆ ก็เลิกใช้ยากันแล้ว แยกย้ายกันไปทำงาน
“ผมกลับบ้านมากขึ้นด้วย
เมื่อก่อนเที่ยวตลอด แต่พอมาอยู่ที่นี่ พอถึงเวลา ‘พี่เปี๊ยก’ ก็บอกให้กลับบ้าน
ผมได้ใช้เวลากับที่บ้านมากขึ้น”
“เปี๊ยก
มังกรดำ” ประดิษฐ์จรัส อสุชีวะ
เป็นผู้ดูแลศูนย์สร้างโอกาสเด็กและเยาวชนแห่งขอนแก่น ใช้กิจกรรม
การดูแลและส่งเสริมเยาวชนเป็นรายบุคคล เพื่อปรับความคิดและพฤติกรรม
เมื่อพวกเขาเปลี่ยนตัวเองได้ ความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวก็ดีขึ้นด้วย
ทำไมถึงเลิกยาเสพติดได้?
“ตอนนั้นบ้านผมแทบไม่มีเงินใช้กันเลย
ยายกับแม่นั่งร้องไห้ ผมสงสาร ก็คิดว่าไม่เอาแล้ว หางานทำดีกว่า
พยายามปรับปรุงตัวเองมาเรื่อย ๆ ที่จริงก่อนหน้านี้ก็เห็นที่บ้านเป็นทุกข์
แต่ตอนนั้นเราคิดไม่ได้
“ผมว่าหลัก
ๆ เลยคือความรักความผูกพันในครอบครัว ช่วงวัยก็สำคัญ ถ้าครอบครัวสัมพันธ์กันดี
พอถึงช่วงอายุหนึ่งเราจะคิดถึงเขา แล้วพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเอง ผมเริ่มเปลี่ยนตอน 15-16 แต่มาตั้งตัวได้จริง ๆ ปีสองปีนี้ รู้สึกว่าการใช้ชีวิต ความคิดเปลี่ยนไป
มองอนาคตมากขึ้น นึกถึงคนอื่นมากขึ้น ก่อนหน้านั้นไม่คิดอะไรเลย
จะไปเที่ยวกับเพื่อนอย่างเดียว”
ถามย้อนถึงการตัดสินใจหันหลังให้รั้วโรงเรียน
“ผมอยากเรียนช่างยนต์
ชอบที่ได้ลงมือทำ ได้หัดซ่อมเครื่องยนต์ ซึ่งก็ได้ทำจริง ๆ
แต่ผมลืมไปว่ามันต้องมีวิชาคณิต อังกฤษ วิทยาศาสตร์ด้วย ผมไม่ชอบทฤษฎี เรียนไม่ไหว
ออกดีกว่า ตอนช่วงออกมาแรก ๆ ผมก็ไปทำงานซ่อมรถอยู่พักหนึ่ง”
ตอนนี้ทำอะไร?
“สนใจวัตถุมงคล
ไปทำงานกับอาจารย์ที่มีความรู้ด้านนี้ หัดสักลาย ถักสร้อยข้อมือ ตอนนี้เปิดสอน
มีคนมาเรียนหลายคนแล้ว เป็นอาชีพเลี้ยงตัวเองเลี้ยงครอบครัวได้
ผมตั้งใจจะเก็บเงินเปิดร้านอัดกรอบพระ
“ผมชอบดนตรีด้วย
เล่นกีต้าร์ตั้งแต่ ม.1 แล้วก็เล่นมาตลอด ไปเล่นตามงาน
ตามรถแห่ ทำให้มีรายได้อีกทางหนึ่ง”
ถ้าหันกลับไปดูน้อง
ๆ ที่เดินตามเส้นทางสายเสี่ยงแบบที่คิมเคยผ่านมา จะบอกเด็ก ๆ ว่าอย่างไร?
“ถ้าเป็นคนอื่นคงพูดว่า ของพวกนี้ไม่ดี อย่าไปลองเลย แต่ผมคิดว่าทุกคนต้องรู้ด้วยตัวเอง ตอนผมใช้ยา คนห้ามเยอะมาก ผมไม่ฟัง แต่พอคิดได้ เราอยากเลิก เราถึงจะเลิกได้ด้วยตัวเอง สำคัญมากก็คือครอบครัว และคนแวดล้อมในช่วงวัยรุ่นที่ยังควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้ ถ้าผ่านช่วงนั้นมา เราจะตั้งหลักได้”️
เทศบาลนครขอนแก่น เป็น 1 ใน 4 ของพื้นที่วิจัย
ในโครงการวิจัยเพื่อพัฒนาองค์ความรู้และขับเคลื่อนกระบวนการพัฒนาเชิงระบบเพื่อการสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาของเด็กนอกระบบ
ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง ศูนย์จิตตปัญญาศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล และ
กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น